25%) แต่หาก FED ไม่ลดดอกเบี้ย ต้องหันจับตามองการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หากเจรจาการค้าสำเร็จ เศรษฐกิจสหรัฐ และเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลังก็มีโอกาศที่ค่าดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าลง อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์มองว่าการลดอัตราดอกเบี้ยของ FED ครั้งนี้จะไม่ส่งผลต่อ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท. ) ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่) ทั้งนี้เมื่อสอบถามความคิดเห็นไปทางธปท. พบว่าทางธปท. ไม่ขอให้ความเห็นเพราะอยู่ในช่วง Silent Period ก่อนแถลงผลการประชุมของ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง. ) ในสัปดาห์หน้า ด้าน กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา บอกว่า นักลงทุนหวังจะเห็นสัญญาณ FED ลดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องในปีนี้ แต่เมื่อยังไม่มีสัญญาณชัดเจน ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่าที่สุดในรอบ 2 ปี เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญ และในวันที่ 1 ส. 2019 FED จะเลิกปรับลดการถือครองพันธบัตร (จากเดิมที่ต่อเนื่องไปถึงเดือนต. ) ทั้งนี้การตัดสินใจของ FED ในระยะต่อไปต้องจับตาปัจจัยที่ FED ให้ความสำคัญ ได้แก่ ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับคู่ค้า ปัจจัยในประเทศสหรัฐ ได้แก่ เงินเฟ้อที่อยู่ระดับต่ำ อัตราการจ้างงาน การใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามมองว่า FED มีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 1 ครั้งในปี 2019 และอีก 1 ครั้งในช่วงไตรมาสแรกของปี 2020 ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
25% เหลือ 0. 25% รวมทั้งขยายระยะเวลาของเงินกู้เป็น 90 วัน เพื่อสนับสนุนสภาพคล่องและความมั่นคงของระบบการเงินการธนาคาร และให้กระแสเงินสดกับเครดิตทั้งระดับครัวเรือนและภาคธุรกิจ ที่มา: CNBC ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
50 ต่อปีอีกด้วย โดย IOER นั้นเป็นเครื่องมือทางการเงินอีกชิ้นของระบบธนาคารกลางสหรัฐฯในการควบคุมทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย Bitcoin พุ่งขึ้นในขณะที่ตลาดหุ้น Wall Street ร่วงอย่างหนัก ในขณะที่การปรับลดอัตราดอกเบี้ย ดูเหมือนว่าจะทำให้การตลาดหุ้น Wall Street ร่วงอย่างหนัก แต่ในขณะเดียวกันสิ่งนี้กลับส่งผลดีต่อราคาของ Bitcoin ก่อนหน้านี้ในช่วงที่ราคาในตลาดหุ้นร่วงลงอย่างหนัก ราคาของ Bitcoin ก็ได้ร่วงกลับลงไปในลักษณะที่คล้ายกัน ซึ่งนั่นทำให้นักวิเคราะห์ทางการเงินและผู้เฝ้าสังเกตุการณ์ของอุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซี่ต่างสงสัยกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับ Bitcoin กันแน่? เพราะปกติแล้วเมื่อเกิดความไม่แน่นอนทางด้านเศรษฐกิจ ราคา Bitcoin มักจะพุ่งขึ้นสวนทางกับเศรษฐกิจของโลกเสมอ แต่ทว่าหลังจากที่ Fed ได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉิน ราคา Bitcoin กลับฟื้นตัวพุ่งขึ้นมาราวกับว่าในช่วงที่เกิดสถานการณ์ความไม่แน่นอน ผู้คนได้โยกย้ายเงินทุนของพวกเขาไปเก็บไว้ที่ไหนสักแห่งและเมื่อเหตุการณ์เริ่มสงบลงแล้ว พวกเขาก็นำเงินกลับมาสู่ตลาดเช่นเดิม ทำไมการปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึงทำให้ราคา Bitcoin ปรับตัวเพิ่มขึ้น?
Source: TISCO Economic Strategy Unit สหรัฐฯ: Fed ลดดอกเบี้ยลง 50bps เป็น 1. 00-1. 25% นอกรอบการประชุม ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่วิกฤตปี 2008 สะท้อนการระบาดของ COVID-19 ที่มีแนวโน้มจะกระทบเศรษฐกิจรุนแรงกว่าที่ได้ประเมินไว้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีมติเป็นเอกฉันท์ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 50bps เป็น 1.
ล่าสุดธนาคารกลางสหรัฐ หรือ FED ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0. 25% ทำให้เช้าวันนี้เงินบาทอ่อนค่าเพราะอะไร? หลังจากนี้ทิศทางของ FED จะเป็นอย่างไร? ไม่ถูกใจสิ่งนี้ ทรัมป์ด่าประธาน Fed ไม่ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่อง ธนาคารกลางสหรัฐ ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0. 25% ปรับลดครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2008 FED ลดดอกเบี้ยนโยบาย ทำบาทอ่อนค่าระยะสั้น ธนาคารกรุงไทย บอกว่า ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ FED ปัจจุบันลดอัตราดอกเบี้ยมาอยู่ที่ระดับ 2. 00-2. 25% โดยท่าทีของ Jerome powell ประธาน FED ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้นักลงทุนปิดรับความเสี่ยงส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกประบตัวลงลง 4-6 bps (Basic point หรือจุดพื้นฐาน) และดัชนี S&P 500 ของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 1. 1% นอกจากนี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักทั่วโลก อย่างไรผลกระทบต่อค่าเงินบาทในวันที่ 1 ส. ค. 2019 เปิดตัวที่ 30. 90 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงจากเมื่อวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 30. 75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ คาดการณ์ว่าวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 30. 83-30. 93 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หลังจากนี้มองว่า FED มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 1 ครั้งในปีนี้ (0.
ที่มาภาพ: ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0. 50% แบบฉุกเฉิน มาที่ระดับ 1. 00-1.
78% เป็น 4. 0% ภายในระยะเวลา 3 วันหลัง Fed ส่งสัญญาณการลด QE ซึ่งดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอาจเป็นอุปสรรคต่อภาคธุรกิจที่มีแผนขยายกิจการไปต่างประเทศหรือออกหุ้นกู้ระยะยาว 2) อาจทำให้ราคาสินทรัพย์มีมูลค่าลดลงอย่างรวดเร็วทั้งราคาหุ้นและราคาทองคำ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจจริงผ่านการตัดสินใจใช้จ่ายอุปโภคบริโภคของครัวเรือนจากความมั่งคั่งของครัวเรือนที่ลดลงตามมูลค่าสินทรัพย์ที่ถือครอง (Wealth Effect) แล้วเศรษฐกิจไทยจะได้รับผลดีหลังจากการลด QE บ้างหรือไม่?