"แคต"ชื่อติดหูที่คนไทยใช้เรียก "เครื่องฟอกไอเสียเชิงเร่งปฏิกิริยา" ที่มีชื่อเต็ม ๆ ว่า "แคตตาไลติกคอนเวอร์เตอร์" ( catalytic converter) เป็นอุปกรณ์สำหรับ กำจัด ลด ปริมาณมลพิษ ที่เกิดจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ ก่อนปล่อยออกสู่บรรยากาศ โดย"แคตตาไลติกคอนเวอร์เตอร์"จะทำหน้าที่เปลี่ยนไอเสีย 3 ชนิดได้แก่ สารไฮโดรคาร์บอน ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ โดยใช้ความร้อนจากไอเสียที่มาจากห้องเผาใหม้ทำปฎิกริยาเคมี รีดักชัน และ ออกซิเดชัน ให้เป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์, ไนโตรเจน, ออกซิเจน และไอน้ำ ความเป็นมา จากการเก็บข้อมูลของสหรัฐอเมริกาพบว่ารถยนต์ที่ผลิตก่อนปี พ. ศ. 2509 ค่าเฉลี่ยรถยนต์ที่วิ่งในระยะทาง 1 ไมล์ หรือ ประมาณ 1. 6 กิโลเมตร ปลดปล่อยมลพิษหรือก๊าซพิษออกมาสู่บรรยากาศหลายชนิด เช่น ไอน้ำมันที่เผาไหม้ไม่หมดหรือสารไฮโดรคาร์บอนถูกปล่อยออกมาประมาณ 10. 6 กรัม ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ประมาณ 84 กรัม ก๊าซในกลุ่มไนโตรเจนออกไซด์ ประมาณ 4. 1 กรัม ทำให้หน่วยของรัฐของสหรัฐอเมริกาออกมากดดันให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องติดตั้ง "เครื่องฟอกไอเสีย" ในรถยนต์ทุกคัน รถยนต์ที่ผลิตพร้อมติดตั้งเครื่องฟอกไอเสียมีจำหน่ายเป็นครั้งแรกในปี พ.
เครื่องฟอกไอเสียแบบใช้เหล็กเป็นแกนรองรับสารเร่งปฏิกิริยา เครื่องฟอกไอเสียเชิงเร่งปฏิกิริยา ( อังกฤษ: catalytic converter) เป็นอุปกรณ์สำหรับ กำจัด ลด ปริมาณมลพิษ ที่เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ ก่อนปล่อยออกสู่บรรยากาศ ประวัติ [ แก้] ผู้ที่ทำการคิดค้นเครื่องฟอกไอเสียฯ ครั้งแรก คือ Eugene Houdry วิศวกรเครื่องกลชาวฝรั่งเศสซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเร่งปฏิกิริยาการกลั่นน้ำมัน ประมาณปี พ. ศ. 2493 และได้รับการพัฒนาต่อโดย Engelhard Corporation จากการเก็บข้อมูลของ สหรัฐอเมริกา พบว่ารถยนต์ที่ผลิตก่อนปี พ. 2509 ค่าเฉลี่ยรถยนต์ที่วิ่งในระยะทาง 1 ไมล์ หรือ ประมาณ 1. 6 กิโลเมตร ปลดปล่อยมลพิษหรือก๊าซพิษออกมาสู่บรรยากาศหลายชนิด เช่น ไอน้ำมันที่เผาไหม้ไม่หมดหรือสาร ไฮโดรคาร์บอน ถูกปล่อยออกมาประมาณ 10. 6 กรัม ก๊าซ คาร์บอนมอนอกไซด์ ประมาณ 84 กรัม ก๊าซในกลุ่ม ไนโตรเจนออกไซด์ ประมาณ 4. 1 กรัม ทำให้หน่วยของรัฐของสหรัฐอเมริกาออกมากดดันให้รถยนต์ติดตั้งเครื่องฟอกไอเสียฯ กับรถยนต์ทุกคัน ส่วนรถยนต์ที่ทำการผลิตออกมาและได้ทำการติดตั้งเครื่องฟอกไอเสียทำการจำหน่ายเป็นครั้งแรกในปี พ.
ดูจากอายุการใช้งาน รถยนต์ทั่วไปเมื่อใช้เกิน 100, 000 กิโลเมตร แม้รูปทรงเครื่องยนต์จะยังไม่แตกหักหรือพัง แต่สารเคลือบที่ทำปฏิกิริยากับไอเสียจะเริ่มเสื่อมสภาพ การลดไอเสียก็ลดลงไปด้วย 2. การเผาไหม้ผิดปกติ เช่น รถที่ติดแก๊ส เมื่อความร้อนจากห้องเผาไหม้สูงกว่าที่ตัวแคตรับได้ จะละลายและกลายเป็นก้อนจนแตกไป วิธีการดูว่า "แคตตันหรือไม่" ถ้าเครื่องยนต์เบนซิน มีการใช้งานปกติจะไม่เกิดอาการตันแน่นอน อาจมีแค่เสื่อมสภาพเท่านั้น ส่วนรถแบบดีเซลให้สังเกตว่ามีเขมามาเกาะตามรังผึ้ง เมื่อรถยนต์เริ่มวิ่งเกิน 100, 000 กิโลเมตร แล้วหรือไม่ ซึ่งอาจมีแค่เขมาแต่จะไม่ถึงกับตันครับ เรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ เติมน้ำมันแบบไหน ประหยัด และคุ้มกว่ากัน สัญญานเตือนก่อนโช๊คอัพพัง อาการแผงคอยล์ร้อนอุดตัน คุยกับช่างเค คลิก คุยกับเราได้ที่
2518 ขณะนั้นเป็นเครื่องฟอกแบบสองทาง และสามารถลดมลพิษได้เฉพาะสารประกอบ ไฮโดรคาร์บอน กับก๊าซ คาร์บอนมอนอกไซด์ เท่านั้น จากนั้นจึงพัฒนาให้สามารถลดก๊าซ ไนโตรเจนออกไซด์ ได้ ในช่วงปลายทศวรรษที่ 70 [1] สหรัฐอเมริกา ได้ออกกฎหมายให้รถยนต์ทุกคันติดตั้งอุปกรณ์บำบัดมลพิษจากท่อไอเสียในปี พ. 2517 ในปีต่อมา ญี่ปุ่น ก็ออกกฎหมายบังคับให้รถยนต์ติดตั้งอุปกรณ์บำบัดไอเสีย ส่วน ประเทศไทย ได้ออกกฎหมายบังคับให้รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ เบนซิน ต้องติดตั้งอุปกรณ์บำบัดไอเสียในปี พ.