✰ 95% ของคนที่เคยได้ลองใช้พบว่าผิวหน้าที่หมองคล้ำดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ✰ เป็น Sleeping Mask ที่ช่วยประหยัดทั้งเงินและเวลา เพราะก่อนนอนใช้เพียงแค่มาส์กตัวนี้เพียงตัวเดียวก็เอาอยู่ ไม่ต้องง้อสกินแคร์ตัวอื่นเลย:P บอกแล้ววว ความดีงามที่สุดในสามโลกมารวมอยู่ใน Marmele Overnight Sleeping Mask กระปุกนี้กระปุกเดียวแล้วววว ~ แล้วคือจะบอกว่าใช้ง่ายมาก ๆ เลยนะ เพียงแค่ใช้หลังล้างหน้าก่อนจะเข้านอน (สัปดาห์ละ 2-3 ครั้งหรือคืนก่อนจะไปเดทก็จัดโลด!! )
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ขจัดคราบวางขายมากมายหลายแบบ คุณสามารถเลือกซื้อจากร้านค้าและนำมาขจัดคราบได้ แต่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำลายเนื้อผ้าที่คุณจะเอาไปใช้ด้วย และอย่าลืมทำตามคำแนะนำในการใช้บนฉลากเสมอ ส่วน 3 ของ 4: เพิ่มประสิทธิภาพด้วยวิธีพิเศษขณะซัก 1 ใส่น้ำส้มสายชูในขั้นตอนล้างน้ำ. ใส่น้ำส้มสายชูขาว 1 ถ้วยตวง (250 มิลลิลิตร) ลงในเครื่องซักผ้าก่อนเครื่องจะเริ่มขั้นตอนล้างน้ำ ใช้วิธีนี้เมื่อคุณซักแต่ผ้าสีขาวล้วนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ซักด้วยผงฟู. เทผงฟู 1 ถ้วยตวง (250 มิลลิลิตร) ลงในถังซักที่มีแต่ผ้าสีขาวโดยตรง แล้วเปิดเครื่องซักผ้าตามปกติ อย่าเทผงฟูใส่ช่องแยกในเครื่องซักผ้า อีกทางหนึ่งก็คือใช้โซดาซักผ้าแทนผงฟู สองอย่างนี้มีความคล้ายกัน แต่โซดาซักผ้าจะมีค่าความเป็นกรดน้อยกว่า ทำให้ปลอดภัยที่จะใช้กับผ้ามากกว่า ใส่สารบอแรกซ์ลงไปในเครื่องซักผ้า. [7] โรยผงบอแรกซ์ 1/2 ถ้วยตวง (125 มิลลิลิตร) ลงไปบนกองผ้าขาวในเครื่องซักผ้า เทลงในถังซักโดยตรงและเปิดเครื่องตามปกติ ไม่ควรเทสารบอแรกซ์ใส่ช่องแยกในเครื่องซักผ้า สารบอแรกซ์เหมือนกับผงฟูตรงที่ช่วยให้ผ้าขาวและขจัดกลิ่นได้ ใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกผ้าขาว. ถ้าคุณซักผ้าขาวล้วนๆ เติมน้ำยาฟอกผ้าขาวลงไปหนึ่งฝาขณะซัก ถ้าคุณกังวลเรื่องผลที่รุนแรงของน้ำยาฟอกผ้าขาวทั่วไป ลองใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกผ้าขาวแบบไม่มีคลอรีน หรือสารฟอกผ้าขาวชนิดออกฤทธิ์ช้าอย่างไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ความเข้มข้น 3 เปอร์เซ็นต์ [8] ถ้าน้ำที่บ้านคุณเป็นน้ำกระด้างที่มีเหล็กปนอยู่มาก ห้ามใช้น้ำยาฟอกผ้าขาวชนิดที่เป็นคลอรีน เพราะคลอรีนเมื่อเจอกับเหล็กจะทำให้ผ้าขาวของคุณเหลืองได้ ให้ใช้น้ำยาฟอกขาวชนิดที่เป็นออกซิเจนแทน 5 ใช้ผลิตภัณฑ์ขจัดคราบสีตก.
คุณอาจไม่สามารถซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ได้ตลอดเวลา แต่คุณก็สามารถดูดีมีสไตล์ได้จากเสื้อผ้าที่มีอยู่แล้วได้หากคุณรู้จักมิกแอนแมชต์การเเต่งตัวของคุณ อย่างไรก็ดี เราได้รวบรวมคำแนะนำดีๆ ตั้งแต่การหาซื้อเสื้อผ้าราคาถูกที่มีคุณภาพดีไปจนถึงการดูแลทำความสะอาดเพื่อให้ตู้เสื้อผ้าของคุณกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง วิธีซักผ้าขาวไม่ให้หมองควรทำอย่างไร?
อย่าลืมอ่านวิธีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระบุไว้บนฉลากด้วย ตอนนี้คุณก็รู้วิธีดูแลผ้าให้สดใสเหมือนใหม่แล้ว อ่านเคล็ดลับการทำความสะอาดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลรักษาเสื้อผ้าอื่นๆ ได้เลย! ซ่อมแซมและปรับปรุงเสื้อผ้าชุดเก่า ไม่ว่าจะด้วยการเย็บกระดุมใหม่หรือย้อมสีผ้าที่ซีดแล้ว หาทางป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าชำรุดหากต้องการซักทำความสะอาดด้วยเครื่องซักผ้า อ่านคำแนะนำการใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าบนฉลากเพื่อการใช้ผลิตภัณฑ์ในปริมาณที่เหมาะสม
เผยแพร่: 9 พ. ย. 2558 17:23 โดย: MGR Online FEEL GOOD ขอเอาอกเอาใจแม่บ้าน-พ่อบ้านกันหน่อย!! ด้วยวิธีการคืนความผ่องให้เสื้อผ้าเก่าที่ทั้งหมอง มีคราบเหลืองๆ คราบเหงื่อติดตามซอกต่างๆ สร้างความหงุดหงิดเวลาซักทุกที หากจะซื้อเสื้อใหม่ก็เกรงใจเงินในกระเป๋า ลองมาดูวิธีง่ายๆ ในการชุบโฉมผ้าหมองให้กลับมาประกายความขาวกันอีกครั้งดีกว่า คืนความขาวด้วยน้ำสไปรท์ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าน้ำอัดลมอย่างน้ำสไปรท์ สามารถช่วยคืนความขาวให้เสื้อผ้าได้!? ก่อนอื่นคือนำผ้าขาวมาแช่น้ำสไปร์ท ตามด้วยใส่ผงซักฟอกลงไปเล็กน้อย จากนั้นตีน้ำและคนส่วนผสมให้เข้ากันจนเกิดฟอง แช่ผ้าขาวทิ้งไว้ทั้งคืน หลังจากครบกำหนดการแช่แล้วให้นำมาซักน้ำสะอาด วิธีการง่ายแค่นี้แต่ผลลัพท์ทำเอาตะลึงเหมือนได้ผ้าใหม่เลยทีเดียว เศษสบู่ถูผ้าขาว! หากบ้านไหนใช้สบู่ก้อนจะรู้เลยว่าเวลาที่ใกล้จะหมด เหลือเป็นเศษเล็กเศษน้อยบางคนทิ้งไปซะอย่างงั้น เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งทิ้ง เพื่อนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์เจ้าเศษสบู่เหลือๆ เราสามารถนำมาขัดผ้าขาวได้ในจุดที่มีคราบเหลือง หรือคราบสกปรกที่ติดอยู่ได้ คือในระหว่างที่ซักผ้านั้นให้นำสบู่มาขัดๆ ถูๆ ที่คราบเหลืองๆ จะช่วยขจัดรอยหมองตรงนั้นได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง ยาสีฟันขจัดคราบ!
บอแรกซ์และน้ำส้มสายชู สูตรนี้ขจัดคราบฝังลึก โดยเริ่มผสมบอแรกซ์ ½ ถ้วยตวงเข้ากับน้ำส้มสายชู ½ ถ้วยตวง เทผสมลงในน้ำผงซักฟอก ก่อนซักผ้าขาวตามปกติจะทำให้ผ้าหมองกลับมาขาวอีกครั้ง 10.
[2] นำยาสีฟันที่มีส่วนผสมของผงฟูและสารฟอกฟันขาว 6. 4 ออนซ์ (189. 3 มิลลิลิตร) ผงฟู 1/2 ถ้วยตวง (125 มิลลิลิตร) เกลือ 1/4 ถ้วยตวง (60 มิลลิลิตร) และน้ำส้มสายชูขาว 2 ถ้วยตวง (500 มิลลิลิตร) มาผสมเข้าด้วยกัน ตีจนส่วนผสมเริ่มขึ้นฟู แช่ผ้าขาวที่สกปรกลงไป ทิ้งไว้ 3-4 ชั่วโมงแล้วล้างด้วยน้ำเย็น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรใช้ยาสีฟันแบบครีมดีกว่าแบบเจล และยาสีฟันควรมีผงฟูเป็นส่วนประกอบด้วย 4 แช่น้ำผงซักฟอกก่อนซัก. [3] เทผงซักฟอกหรือน้ำยาล้างจาน 1/4 ถ้วยตวง (60 มิลลิลิตร) ใส่อ่างที่มีน้ำเต็ม นำผ้าขาวมาแช่ทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง ยาสระผมก็นำมาใช้แทนผงซักฟอกหรือน้ำยาล้างจานได้ แต่ถ้าจะใช้ก็ให้เลือกแบบใสและไม่มีน้ำหอม ไม่อย่างนั้นสีจากยาสระผมก็อาจเลอะผ้าขาวได้ น้ำมันในน้ำหอมก็เช่นกัน 5 แช่ผ้าในน้ำเลมอน. [4] เติมน้ำใส่หม้อใบใหญ่แล้วฝานเลมอนใส่ลงไปสัก 1-2 ลูก นำไปต้มให้เดือด ปิดเตา แล้วใส่ผ้าขาวลงไป แช่ผ้าทิ้งไว้ในน้ำเลมอนสักชั่วโมง ใช้วิธีฝานเลมอนเป็นแว่นๆ ไม่ใช่แค่หั่นครึ่ง คุณต้องให้เนื้อเลมอนสัมผัสน้ำให้ได้มากที่สุด น้ำเลมอนในเยื่อข้างในจะได้ไหลซึมสู่น้ำมากขึ้น ส่วน 2 ของ 4: ขจัดคราบด้วยวิธีพิเศษก่อนซัก ใช้น้ำยาขจัดคราบสนิมบนผ้า.
ใช้น้ำเย็นซักผ้าขาว ควรใช้น้ำร้อนขจัดคราบแทน อุณหภูมิน้ำสำหรับการซักผ้าสำคัญกว่าที่เราคิด ใช้น้ำผิด ชีวิตเปลี่ยน! เพราะถ้าเราใช้น้ำเย็นมาซักเสื้อขาวที่มีคราบสกปรกเมื่อไหร่ ซักกี่ครั้ง คราบสกปรกก็ไม่หายไปจากเสื้อแน่นอน ทั้งยังทำให้เสื้อด่างดำ หมองคล้ำไม่น่าใส่อีกด้วย ถ้าหากเสื้อขาวของเรามีคราบสกปรกอยู่ ควรใช้น้ำร้อนที่มีอุณหภูมิ 55 องศา หรือน้ำอุ่นที่มีอุณหภูมิประมาณ 40 องศา ซักผ้าของเราแทนน้ำเย็น จะช่วยขจัดคราบสกปรกได้อย่างล้ำลึก ไม่ทำให้เสื้อขาวหมองคล้ำแน่นอน ข้อควรระวัง: น้ำร้อนไม่เหมาะกับผ้าเนื้อบาง เพราะอาจทำลายเนื้อผ้าได้ อ่านคู่มือการเลือกใช้น้ำได้ที่: ซักผ้าด้วยน้ำร้อน น้ำอุ่น น้ำเย็น แตกต่างกันอย่างไร? เห็นไหม? การซักผ้าขาวนั้น ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอย่างที่คิด เพียงแค่สาว ๆ ทำตาม 5 วิธีสุดเริ่ด ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ รับรองว่าเสื้อตัวโปรดจะกลับมาขาวจั๊วะ สะอาดเหมือนใหม่ โดยไม่ต้องเสียเงินไปซื้อตัวใหม่เลย โดยเฉพาะวิธีการเลือกใช้น้ำสำหรับซักผ้าที่มีคราบสกปรกนั้น เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ๆ ใครลองทำตาม 5 วิธีเหล่านี้แล้ว อย่าลืมมาบอกเราด้วยนะ ถ้าหากเครื่องซักผ้าที่บ้านคุณใช้เวลาในการทำความร้อนนานเป็นชั่วโมง ลองแวะมาใช้บริการซักผ้าได้ที่ร้าน WashXpress เรามีมากกว่า 200 สาขาทั่วไทย พร้อมเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง คุณสามารถซักผ้า-อบผ้า เสร็จพร้อมใช้ภายใน 1 ชม.