ส่งเสริมอะไร? อะไรคืออุปสรรค? กฎหมายข้อไหนมีปัญหา? เพื่อดึงตัวเลขให้ขึ้นมา เราต้องช่วยกัน เพราะหากอีกคนไม่รอด คนรอดก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน "อย่าไปคิดเป็นวิกฤติ ไม่มีอะไรวิกฤติ มีแต่โอกาส! " ดร. พจน์ ขยายความว่า คงไม่มีอะไรจะวิกฤติมากกว่าที่ผ่านมาอีกแล้ว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมาไม่มีใครเคยเจอมาก่อน จากนี้ไปเป็นเรื่องของ "โอกาส" ก็ต้องมาถึงโจทย์ที่ต้องคิดว่า เราจะคว้าโอกาสกันอย่างไร? หรือจะสร้างโอกาสขึ้นมาได้อย่างไร? หรือจะสัมฤทธิ์ผลได้อย่างไร? นอกจากนี้ ดร.
"เพดานเก่าตั้งไว้ตอนที่ไม่มีวิกฤติหนักหนาอะไรขนาดนี้ ง่ายๆ ว่า 60% ตั้งตอนเพิ่งเกิดวิกฤติเบาๆ แต่พอวันนี้อยู่ๆ มันเกิดดังโครม เอาเงินที่ไหนมาใช้ ถ้าตอบแบบชาวบ้านก็ต้องหาเงินมาใช้ ส่วนจะกู้มากหรือน้อยค่อยคุยทีหลัง เวลานี้ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แผลมันแตก หนองมันออก ต้องรักษาอย่างไร ก็ดันเพดานเงินกู้เป็น 70% ให้ผ่านไปก่อน" ทั้งนี้ นอกเหนือจากความเห็น ดร. พจน์ แล้ว เมื่อช่วงต้นปีก็มีนักเศรษฐศาสตร์ออกมาพูดถึงการขยายเพดานหนี้หลายคน โดยบางส่วนเห็นควรว่า การขยายเพดานหนี้ไม่ได้กระทบมากเท่าใด ยังอยู่ในจุดที่รับได้ เพราะหลายๆ ประเทศก็ขยายเพดานเป็นหลักร้อยก็มี อย่าง "อเมริกา" หนี้สาธารณะ 100% ไปแล้ว, "สหภาพยุโรป" ก็ 100% หรือ "ญี่ปุ่น" ก็ 300% ในส่วนเพดานหนี้ 70% ถือว่าอยู่ในวิสัยที่ไม่เกินเลยไป เพียงแต่!!... ต้องคำนึงถึง "ภาระหนี้" ด้วยว่า การก่อหนี้จะสามารถเอามาคืนได้ในอนาคต อีกแง่ของการสร้างสมดุล ในมุมมองของ ดร. พจน์ คือ ระหว่างภาครัฐกับเอกชน และภาครัฐกับประชาชน ซึ่งหากภาคเอกชนไหนไปรอดก็ให้ดูแลกันต่อ เช่น ต้องเพิ่มเติมอะไร? หรือสนับสนุนให้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะ "ภาคส่งออก" ที่ตัวเลขโตขึ้นเรื่อยๆ ก็อาจต้องเข้าไปดูว่า ต้องการให้ช่วยอะไร?
5วิธี แก้ผมแตกปลาย - YouTube